วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

1. Cloud Computing


          คือ อินเทอร์เน็ตโดยรวม ในรูปของโครงสร้างพื้นฐาน เหมือนระบบไฟฟ้า ประปา ที่พร้อมให้บริการกับผู้ใช้งานเมื่อมีความต้องการใช้ ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะให้บริการ ในลักษณะของเว็บแอพพลิเคชัน โดยให้ผู้ใช้ทำงานผ่านเว็บบราวเซอร์ ขณะเดียวกันซอฟต์แวร์และข้อมูลทั้งหมด จะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ เป็นการเข้าใช้บริการจากระบบคอมพิวเตอร์ผ่านทางการออนไลน์ โดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามีทรัพยาการมากน้อยแค่ไหน หรือคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่ใด ไม่ต้องสนใจเรื่องการจัดการทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที นั้น

เป็นลักษณะของระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบของการระจายตามพื้นที่ต่างๆ มีการเชื่อมต่อกันเป็นระบบคลัสเตอร์ ผ่านการจัดสรรทรัพยากรด้วยเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่น เพื่อให้ตอบสนองงานบริการต่างๆ ให้รองรับกับจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีระบบการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการประเภทต่างๆได้ด้วย
เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ขององค์กรทั้งในเรื่องของการลงทุนด้านเทคโนโลยี เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานระบบ และรวมถึงเรื่องของการตอบโจทย์รูปแบบการทำงานในโลกสมัยใหม่ที่สามาาถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา กอปรกับความรู้ความเข้าในของผู้ใช้งานที่มีต่อคลาวด์คอมพิวติ้งที่มีเพิ่มมากขึ้นและให้ความไว้วางใจในระบบนี้มากขึ้น จึงทำให้คลาวด์คอมพิวติ้งยังคงเป็นเทคโนโลยีไฮไลท์ในปีนี้ในภูมิภาคนี้และในประเทศไทย



http://www.value.co.th/th/service/articles/Cloud_computing.htm  

http://www.totcloud.com/faq-cloud.html
http://www.pantipplaza.com/page.php?aid=463&tmid=8&bu=&m=&lan=



2. Mobile Learning



        คือ การผสานกันระหว่างเทคโนโลยีของ อุปกรณ์พกพาต่างๆ และ อีเลิร์นนิ่งทำให้เกิด Mobile Learning หรือ mLearning 

โมบายเลิร์นนิงเป็นการพัฒนาอีกขั้นของ e-Learning เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย เราเรียกการเรียนแบบนี้ว่า Wireless Learning, Mobile Learning หรือ m-Learning ดังนั้น m-learning ก็คือ การศึกษาทางไกลผ่านทางอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สายต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ, PDA และแล็ปทอป โดยมีแอปพลิเคชั่นที่สำคัญต่าง ๆ เช่น มีเดียบอร์ดเป็นการเรียนรู้ผ่านระบบ m-Learning โดยเน้นที่การทำกิจกรรมเป็นกลุ่มเพื่อส่งและรับข้อมูลแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างเพื่อนร่วมชั้นและครูผู้สอน โดยสามารถส่งข้อมูลที่เป็นภาพ เสียง มัลติมีเดีย เว็บไซต์ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือที่เรียกว่า Problem-Based Learning ได้เป็นอย่างดี
ในปัจจุบันการศึกษาได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เป็นการศึกษาแบบ Global ไม่ใช่แบบ Local นั่นหมายความว่า เป็นการศึกษาไม่เฉพาะแต่ภายในส่วนเล็กๆ หรือ ประเทศของตนเองเท่านั้น แต่เป็นการศึกษาที่ครอบคลุมในทุกประเทศทั่วโลก มีการแลกเปลี่ยนความรู้จากซีกโลกหนึ่งไปสู่อีกซีกโลกหนึ่งอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ยิ่งการพัฒนาของเทคโนโลยีการสื่อสารเติบโตมากขึ้นเท่าไร วิธีการศึกษาก็สามารถพัฒนาได้รวดเร็วขึ้นเป็นเงาตามกัน หากพูดถึงการศึกษาหรือการเรียน ความคิดแวบแรกของเราก็คือ การเข้าไปนั่งเรียนในชั้นเรียน เจออาจารย์ผู้สอนหน้าต่อหน้า แต่เมื่อมีการสื่อสารทางไปรษณีย์ การศึกษาแบบใหม่ก็เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่อยู่ไกลสถานที่เรียน หรือไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนได้ เราเรียกการศึกษาแบบนี้ว่า การศึกษาแบบเรียนทางไกลหรือเรียนทางไปรษณีย์ (Distance Learning หรือ d-Learning) ต่อมามีการพัฒนาเทคโนโลยีของการสื่อสารให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าการส่งไปรษณีย์ นั่นก็คือ อินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงเกิด e-Learning หรือ Electronic Learning ขึ้น เป็นการเรียนผ่านทาง อินเทอร์เน็ต และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ , PDA และ Laptop computer ได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการศึกษาแบบ e-Learning จึงกลายมาเป็น m-Learning หรือ mobile learning นั่นเอง



http://thaimlearning.blogspot.com/

http://nunakrab.blogspot.com/2009/08/mobile-learning.html
http://flasenglish2012.wordpress.com/authenticinstruction/%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87-m-learning/




3. Tablet Computing


          คือ  Tablet Computer" หรือเรียกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet" คือ "เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม"  
          Tablet PC หนึ่งเครื่องนั้นสามารถบรรจุหนังสือได้เป็นพันๆ เล่ม โดยผู้อ่านสามารถเลือกเล่มไหนขึ้นมาอ่านก่อนก็ได้ ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของTablet PC คือการเชื่อมโยงครูอาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา เข้าด้วยกันผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้ข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการเรียนการสอนหมดไป ครูอาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา สามารถอยู่กันคนละที่แต่เข้ามาเรียนพร้อมกันแบบเห็นหน้าเห็นตาผ่านทางกล้องที่ถูกติดตั้งมาบนTablet PC ได้  จึงทำให้การเรียนการสอนทางไกลเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และเข้าไปถึงกลุ่มคนทุกชั้นไม่ว่าจะอยู่ในชนบทห่างไกลแค่ไหนก็ตาม
     ปัจจุบันนี้เริ่ม มีการใช้ Tablet PC ในแวดวงการศึกษากันอย่างคึกคักเลยทีเดียว ตัวอย่งเช่นในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงขั้นลงทุนซื้อ Table PC แจกให้กับนักเรียนเพื่อใช้แทนหนังสือในรูปแบบเดิมๆ  ทั้งนี้เพราะTablet PC จะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดพิมพ์หนังสือและตำราเรียนได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังทำให้การปรับปรุงเนื้อหาตำราเรียนสามารถทำได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องรอหนังสือเป็นเล่มๆ หมดแล้วค่อยพิมพ์ใหม่แบบเดิมๆ อีกต่อไป   เพราะหนังสือต่างๆ ที่อยู่บน Tablet PC นั้นล้วนแล้วแต่เป็นหนังสืออิเลคทรอนิคส์ที่ถูกเก็บไว้ในรูปดิจิตอล จึงสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
      สรุปความหมายของแท็บเล็ตสั้นๆ ก็คือ คอมพิวเตอร์พกพาหรือคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางที่มีหน้าจอแบบสัมผัสในการใช้งานเป็นหลัก  กระแสความนิยมใน Tablet PC หรือเครื่องคอมพิวเตอร์แบบกระดานชนวน ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง บริษัทต่างๆ ทยอยกันเปิดตัวTablet PC ของตัวเองอย่างคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่ค่ายมือถือชื่อดังอย่าง BlackBerryที่เพิ่งเปิดตัว BlackBerry Playbook ซึ่งเป็น Tablet PC ตัวเก่งตัวแรกของบริษัท  ไปอย่างคึกคักในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา ด้วยความคาดหวังว่าจะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก Apple ที่ยืนตระหง่านเป็นเจ้าบัลลังค์ Tablet PC ตระกูล iPad อยู่ขณะนี้
       
http://www.tabletd.com/articles/289
http://www.it24hrs.com/2011/tablet-for-education/
http://www.google.com/patents/US6856506





4. MOOCs



          คือ MOOCs หรือ Massive Open Online Courses  คือหลักสูตรการเรียนแบบออนไลน์ที่สามารถสมัครเรียนได้ฟรี รองรับผู้เรียนได้จำนวนมหาศาล สามารถเรียนผ่านระบบเว็บไซต์ได้ โดยที่ผ่านมานั้น MOOCs พัฒนาขึ้นมาเพื่อระบบการศึกษาทางไกล โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นระบบเปิด ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับหลักสูตรตามสถานศึกษาต่างๆ ทั่วไป ยกเว้นก็แต่จะไม่มีหน่วยกิตให้เท่านั้นเอง นอกจากนั้นยังสามารถที่จะออกใบประกาศนียบัตรหลังจากผ่านการประเมินจากการทดสอบออนไลน์ได้ด้วย หรือทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าระบบที่ใช้นั้นมีระบบการวัดผลมากน้อยแค่ไหนด้วย   เป็นอีกรูปแบบของบทเรียนออนไลน์ที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนสำหรับกลุ่มคนขนาดใหญ่แบบเสรี โดยที่ผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการเรียน รองรับผู้เรียนได้อย่างกว้างไกลผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต รองรับได้จำนวนมาก อีกทั้งเนื้อหาก็เป็นเนื้อหาแบบเปิด 

  
http://www.thailibrary.in.th/2014/04/01/moocs/
http://www.maximumdev.com/Knowledge/IT/a-massive-open-online-course-mooc.html
http://botkwamdee.blogspot.com/2012/04/si671tr.html




5. Open Content




          คือ  นวัฒกรรมทางการเรียนระบบเปิด  เป็นทรัพยากรทางการศึกษาที่ผู้เรียนสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านการศึกษาที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึง โดยไมมีคาใช้จ่าย หรือ ค่าธรรมเนียมการใช (license free)

     รูปแบบของ OER หลักๆ จะมี 3 รูปแบบ 
• เนื้อหา (CONTENT) จะเป็นการรวบรวมเนื้อหาจากแหล่ง ๆ ต่าง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย แหล่งที่จะพบส่วนใหญ่ก็คือมหาวิทยาลัยที่มีความเชื่อในเรื่องของการเรียนรู้เป็นเป็นเรื่องสาธารณะ 
• เครื่องมือ (TOOLS) เป็นแหล่งที่รวบรวมเครื่องมือ ได้แก่ โปรแกรม freeware และ open source ต่างๆ เช่นเว็บไซต์ http://sourceforge.net 
• เครื่องช่วยในการค้นหาทรัพยากร (CAPACITY) เปรียบเสมือนห้องสมุดที่เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรทางการศึกษาจากผู้สอน / นักวิชาการจากทั่วโลก 


http://www.slideshare.net/jant2523/oer-moocsjantima
http://www.addkutec3.com/wp-content/uploads/2014/07/OER.pdf
https://www.google.com/patents/EP2187594A1?cl=en&dq=open+content&hl=en&sa=X&ei=qtcJVJyRMoujugSo4oD4CA&ved=0CB8Q6AEwAA




6. Game and Gamification

           คือ การนำแนวคิดและกลไกของเกมมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่เกม เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ หรือ เพื่อสร้าง Engagement ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง … และเชื่อไหมว่าในชีวิตจริงของผู้ที่อยู่ในแวดวงการบริหารทรัพยากรบุคคลแล้ว มีการนำ Gamification มาใช้โดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยครั้ง และใช้กันมานานแล้ว เพียงแต่ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนไปเยอะมาก และหลายๆ อย่างสามารถเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำ Gamification ให้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกับคำว่า “Gamification”? สักเท่าไหร่นะคะ ว่าแต่เอ๊ะ! เชื่อว่ามีหลายคนเห็นแล้วต้องเดาออกว่ามันเกี่ยวข้องกับเกมหรือเปล่า? ใช่แล้วค่ะ มันเกี่ยวข้องกันจริงๆ ด้วย
Gamification เป็น Apps หรือบริการที่นำเอาคอนเซ็ปของเกมมาประยุกต์ใช้ มีการวางกลไกของเกมภายใน App อาทิเช่น การกำหนดกิจกรรมให้ทำ มีการนำเสนอแต้ม, leader boards, levels, badge ต่างๆ มาประยุกต์เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาเพื่อการกระตุ้นและดึงความสนใจให้คนมาเข้าร่วม 
 App ประเภท Gamification  อย่างเช่น Location-Based Game ที่ชื่อว่า Foursquare ที่แบรนด์ต่างๆ สามารถให้รางวัลเมื่อเข้ามาทำการ Checkin ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
http://www.kafaak.com/2013/09/01/gamification-and-hr/

http://thumbsup.in.th/2011/07/gamification/

http://www.digithun.com/digitalcampaign/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-gamification/






7. 3D Pringting


          หรือ การพิมพ์แบบสามมิติ คำว่า 3D printing อาจทำให้คิดว่าน่าจะเป็นการพิมพ์ภาพสามมิติทั่ว ๆ ไป แต่จริง ๆ แล้ว 3D printing นี้เป็นการสร้างโมเดลเสมือนจริงหรือการขึ้นรูปชิ้นงานนั่นเอง
เครื่องพิมพ์แบบสามมิติไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีประวัติการพัฒนายาวนานกว่า 30 ปี แต่สิ่งที่ทำให้นวัตกรรมการพิมพ์ 3 มิติ กลับมาฮือฮาอีกครั้ง ก็เพราะมีความพยายามพัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้เข้าสู่ผู้ใช้ในระดับครัวเรือนมากขึ้น นอกเหนือจากนั้นนักวิทยาศาสตร์จากหลายสาขายังพยายามประยุกต์ใช้หลักการของการพิมพ์แบบสามมิติไปสู่งานวิจัยในระดับที่เล็กลงแต่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งข้างหน้า เราอาจเห็น “ชีวิตสังเคราะห์” จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติถือกำเนิดได้จริงในห้องปฏิบัติการ
http://www.vcharkarn.com/varticle/57825
http://en.wikipedia.org/wiki/3D_printing
https://www.google.com/patents/EP2459361A1?cl=en&dq=3d+printing&hl=en&sa=X&ei=-tkJVN-pL87kuQTggIK4Dg&ved=0CEYQ6AEwBQ




8. Virtual and Remote Laboratories


        คือ  ห้องปฏิบัติการระยะไกลและเสมือนจริง สะท้อนให้เห็นพัฒนาการของสถาบันการศึกษา เพื่อให้การทดลองทางวิทยาศาสตร์และปฏิบัติการทางฟิสิกส์เป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถเรียนจากที่ใดก็ได้ผ่านทางเว็บห้องปฏิบัติการเสมือนจริงเป็นโปรแกรมที่เลียนแบบการทำงานของห้องปฏิบัติการจริง และช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทดลองในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อนที่จะได้ลงมือปฎิบัติจริง  
นักเรียนสามารถเข้าถึงห้องปฏิบัติการเสมือนจริง จากที่ใดก็ได้และสามารถทำการทดลองเดียวกันซ้แล้วซ้ำอีก ห้องปฏิบัติการเสมือนจริงทำให้เกิดแพลตฟอร์มขึ้นมาใหม่ มีรายงานแม่แบบเพิ่มเติม ผลของการทดลองทำให้นักเรียนและครูสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้อย่างง่ายดายขึ้น ห้องปฏิบัติการระยะไกลให้อินเตอร์เฟซที่เสมือนกับห้องปฏิบัติการจริง  สถาบันการศึกษาที่ไม่มีระบบปฏิบัติการความสามารถสูง สามารถทำการทดลองและดำเนินการทดลองออนไลน์ โดยเข้าถึงเครื่องมือจากหน่วยงานกลาง  ผู้ใช้สามารถทำการทดลองและดูการทดลองผ่านทางเว็บแคมในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ
สิ่งนี้จะช่วยให้นักศึกษามองเห็นระบบจริงที่แท้จริง และช่วยให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงเครื่องมือของห้องปฏิบัติการอย่างมืออาชีพ จากที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกเขาต้องการ นอกจากนี้ห้องปฏิบัติการระยะไกลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของสถาบันในการจัดซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด
http://akkordio.net/latinamooc/?page_id=3128
http://ascelibrary.org/doi/abs/10.1061/41096(366)368
http://rua.ua.es/dspace/bitstream/10045/10159/1/ArticuloEscape.pdf


9. Wearable Technology




          คือ  เครื่องที่ช่วยในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายของคนว่าเราทำอะไรอยู่ เช่น เก็บข้อมูลเกลลอรี่ในร่างกายว่าได้รับมาเท่าไร สูญเสียไปเท่าไรบางคนอาจใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยมีแบบแผนอะไรเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เทคโนโลยีพวกนี้ออกมาเรื่อยๆ  หลายๆคนคงอาจสนใจไม่น้อยด้วยรูปลักษณ์ที่ดึงดูดเรา การดีไซต์ การทำให้เป็นออกมาในรูปแบบของนาฬิกาข้อมือ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ที่ใครได้ไปครอบครองก็อาจช่วยเปลี่ยนชีวิตได้ไม่น้อย   และข้อมูลที่เก็บมาได้ตรงนี้เราอาจนำมาวิเคราะห์ต่อได้ว่า หากเราออกกำลังกายด้วยเวลาประมาณนี้ กับแคลอรี่ที่สูญเสียไป รึ เพิ่มขึ้นเราจะต้องทานอาหารยังไง ข้อมูลที่แสดงเป็นกราฟ ตัวเลขอาจทำให้เราเห็นภาพได้ดีขึ้น ว่าเราต้องแก้ไขเรื่องพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ปัจจุบันอุปกรณ์สวมใส่ได้รับการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ออกมามากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนุษย์ยุคไอที




http://pantip.com/topic/32268491
http://www.kafaak.com/2014/01/14/my-thought-about-wearable-device/
http://www.dailygizmo.tv/2014/04/29/wearable-device-%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95/



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น